บช.น. แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นต่างทางการเมืองที่จะมาชุมนุมบริเวณสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

วันอังคารที่ 24 พ.ย. 63 เวลา 11.30 น. ณ ลานแถลงข่าว ชั้น 1 อาคาร บช.น. : พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./รองโฆษก บช.น. , พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นต่างทางการเมืองที่จะมาชุมนุมบริเวณสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า มาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมกลุ่มผู้ชุมนุมตามที่เพจเยาวชนปลดแอกรวมตัวเดินทางมาที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นั้น ทาง บช.น.ได้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรดูแล และชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าตรวจสอบเหตุในพื้นที่ทั้งหมด 5 สน. ได้แก่ สน.สามเสนสน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฎร์ สน.นางเลิ้ง สน.ดุสิต

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หากเลี่ยงได้จะไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ใกล้กัน โดยแยกให้อยู่คนละฝั่ง ยืนยันว่าตำรวจเป็นคนกลางไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ส่วนกรณีกลุ่มการ์ดราษฎรมาดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุมอาจทำให้เกืดการกระทบกระทั่งกันนั้น ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย ถ้าอยู่ในกฎหมายจะไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นแน่นอน ส่วนการห้ามชุมนุมในระยะ 150 เมตรนั้น เป็นไปตาม ม.7 พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะและเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ต้องไม่ให้เกิดความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งแนวไว้และมีการแจ้งเตือนทุกระยะ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผกก. – รอง ผกก. ประกาศแจ้งเตือนก่อน โดยไม่ให้เข้าพื้นที่ที่มีความสำคัญบริเวณดังกล่าว ส่วนการใช้โซเซี่ยลมีเดียเชิญชวนให้มาร่วมชุมนุมจะมีความผิดข้อหายุยงปลุกปั่นหรือไม่นั้น ต้องดูว่าข้อความว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ เน้นใช้มาตรการตามความจำเป็น เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นจะต้องดูตามสถานการณ์ ใช้มาตรการตามความเหมาะสม

“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ โรงเรียนในพื้นที่ อาทิ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ได้มีการประกาศหยุด 1 วัน รวมถึงหน่วยราชการและห้างร้านต่างๆ ได้ประสานข้อมูลให้ปิดพื้นที่โดยรอบการชุมนุม ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่ห้ามบริเวณใดบ้าง ให้ดูพื้นที่ที่ตำรวจตั้งแนวป้องกันไว้ ไม่อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุไว้ ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมแชร์เอกสารตำรวจจะใช้กำลัง 39 กองร้อย เราจัดกำลังตามสถานการณ์ อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นก็เป็นไปได้” พล.ค.ค.ปิยะ กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า กรณีในวันที่ 25 พ.ย.ตามที่ปรากฎทางสื่อโซเชียลมีเดีย ได้มีประกาศนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์นั้น เพื่อความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านการจราจรประกอบการวางแผนการเดินทางของประชาชน โดยขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางรอบพื้นที่สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ของวันที่ 25 พ.ย.เป็นต้นไปจนเสร็จสิ้นการชุมนุม และขอให้ไปใช้เส้นทางที่แนะนำรอบพื้นที่การชุมนุมฯ ดังนี้ เส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร 4 ทิศทาง ได้แก่
1.) เส้นทางแนะนำด้านทิศเหนือ ตั้งแต่ถนนสุโขทัย – สะพานกรุงธนบุรี (ซังฮี้) ถนนนครไชยศรี และถนนเศรษฐศิริ – ถนนอำนวยสงคราม
2.) เส้นทางแนะนำด้านทิศตะวันออก ตั้งถนนพระราม 6 ถนนกำแพงเพชร 5 และ ทางพิเศษศรีรัช
3.) เส้นทางแนะนำด้านทิศใต้ ตั้งแต่ถนนหลานหลวง – ถนนราชดำเนินกลาง – สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนหลานหลวง – ถนนจักรพรรดิพงษ์ – ถนนวิสุทธิกษัตริย์ – สะพานพระราม 8 และถนนบำรุงเมือง – ถนนพระราม 1 4.) เส้นทางแนะนำด้านทิศตะวันตก ตั้งแต่ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนบรมราชชนนี และถนนอรุณอัมรินทร์

“ส่วนเส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้ กรณีเดินทางโดยใช้ทางด่วน ได้แก่ 1.จุดที่ปิดการจราจร (ทางด่วนยมราช) จุดเดียว 2.เส้นทางแนะนำตั้งแต่ลงด่วนพระราม6 – ถนนพระราม 6 – ขวาแยกโรงกรองน้ำ – ถนนนครไชยศรี – ถนนสุโขทัย – สะพานชังอี้รวมถึงกรณีลงทางด่วนจารุเมือง ใช้เส้นทางถนนพระราม4 – ถนนเยาวราช -ช้ายถนนจักรวรรดิ์ – สะพานพระปกเกล้า และหากลงทางด่วนจารุเมืองแล้วใช้เส้นทางถนนพระราม4 – ถนนเยาวราช – ขวาถนนจักรวรรดิ – แยกหลานหลวง – ตรงไปสะพานพระราม 8 หรือ เลี้ยวซ้ายไปสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า นอกจากนี้ตำรวจนครบาลตะจัดรถชัตเตอร์บัส อาทิ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วงเวียนใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบในพื้นที่โดยรอบอย่างหน่วยงานราชการที่จะต้องการขึ้นรถออกจากพื้นที่บริเวณที่มีการชุมนุมดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประสานทุกหน่วยงานกับประชาชนทุกชุมชนมีการเตรียมความแก้ไขปัญหาไว้แล้ว ” พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าว

ทาง พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการแจ้งขอใช้พื้นที่ในการชุมนุมกับตำรวจแต่อย่างใดการชุมนุมเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย ต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต้องแจ้งก่อน 24 ชั่วโมง ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ห้ามใช้ป้ายที่มีข้อความที่สร้างความเกลียดชังดูหมิ่นให้เกิดความแตกแยก เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งยึดแนวทางปฏิบัติตามอำนาจที่กฎหมายกำหนดไว้ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งเรื่องการบังคับใช้กฎหมายและดูแลจราจรเป็นไปตามหลักสากลไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการจัดกำลังตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม การจัดแบริเออร์ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ แต่รวมกฎหมายอื่นด้วย

“นับแต่ช่วงการเดือน ก.ค. ปีนี้ มีการชุมนุม 20 จังหวัดทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทุกกลุ่ม เรามีการดำเนินคดีทั่งไปประเทศ 170 คดี กรุงเทพมหานคร 100 คดี ต่างจังหวัด 70 คดี หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็จะถูกดำเนินคดีตามหลัง ตามดุลยพินิจเจ้าพนักงานสอบสวนพื้นที่นั้นๆ ส่วนน้ำที่ใช้ฉีดในพื้นที่ชุมนุมนั้น ประเด็นสีที่ใช้ทั้งสีม่วงสีฟ้า เป็นสีย้อมทั่วไป เพื่อใช้มาร์คตัวผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม ส่วนสารเคมีที่ผสมในน้ำเป็นแก๊สน้ำตาชนิดเหลว มีคุณสมบัติทำให้ระคายเคืองตา และทำให้การหายใจลำบากเล็กน้อย แต่ไม่มีอันตรายต่อชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาพื้นที่หวงห้าม ส่วนมีผู้รับผลกระทบจากน้ำที่ฉีดจากรถน้ำนั้น เราถือเป็นบทเรียนและนำมาปรับปรุง เรามีการฝึกซ้อมตามระเบียบมีขั้นตอนการดำเนินการ กรณีที่มีผู้ร้องทุกข์ตาม ม.157 พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ต้องมีการฟ้องร้อง ” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท. 56 ปี)
#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์
#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน
#T.Newsman007Online
#นุช​ อินเตอร์​นิวส์​ออนไลน์​//รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed