ป.ป.ส. เผยแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการริบทรัพย์สินคดียาเสพติด นำหลักการริบทรัพย์สินตามมูลค่า (Value-based confiscation) มาใช้ เพื่อรองรับธุรกรรมการเงินในยุคดิจิทัล และความร่วมมือระหว่างประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เปิดเผยแนวทางการยึดทรัพย์สินภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาและพิจารณาการนำหลักการริบทรัพย์ตามมูลค่ามาใช้ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อวันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2563 ณ สำนักงาน ป.ป.ส.

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับการขยายผลจับกุมเพื่อยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ซึ่งหากจะชนะยาเสพติด หรือทำลายวงจรการค้ายาเสพติดให้ได้ผลเป็นรูปธรรม ต้องทำการยึดทรัพย์สินของผู้กระทำผิด หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิด ประกอบกับการมอบนโยบายการขยายผลยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 โดยให้นำแนวความคิด การยึดทรัพย์ตามมูลค่า (Value-based confiscation) มาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด โดยพิจารณาแก้กฎหมายรับรองด้วย

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า จากการมอบนโยบายของนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาและพิจารณาแนวทางการนำหลักการริบทรัพย์สินตามมูลค่ามาใช้ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยมี นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ผู้แทนส่วนราชการและผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านการริบทรัพย์สิน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และนักวิชาการ โดยในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ส. มีนายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมเป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว

สำหรับการริบทรัพย์สินคดียาเสพติดของไทยในปัจจุบันเป็นการริบในรูปแบบเจาะจงตัวทรัพย์ ที่เมื่อเจ้าหน้าที่พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการสืบสวนเพื่อค้นหาและรวบรวมทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด เช่น เงินสด รถ บ้าน ที่ดิน และให้โอกาสผู้กระทำความผิดชี้แจงที่มาของทรัพย์สิน ถ้าชี้แจงไม่ได้ว่าทรัพย์สินดังกล่าวได้มาโดยสุจริตอย่างไร พนักงานอัยการก็จะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ริบทรัพย์สินดังกล่าว แต่ผู้กระทำความผิดบางส่วนได้อาศัยช่องว่างทางกฎหมายโอนย้าย ซุกซ่อนทรัพย์สิน ด้วยวิธีการและรูปแบบต่าง ๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

ดังนั้น เพื่อเป็นการอุดช่องว่างดังกล่าว คณะอนุกรรมการจึงเห็นควรนำหลักการริบทรัพย์สินตามมูลค่า (Value-based confiscation) ซึ่งเป็นหลักการที่ยอมรับในต่างประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ มาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดทรัพย์สินของประเทศไทย ซึ่งในการจัดทำร่างกฎหมายดังกล่าว จะต้องมีการกำหนดกรอบการบังคับใช้กฎหมายให้มีความชัดเจนเพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้สุจริต โดยพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งในขั้นตอนของการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและการพิจารณาคดีของศาล เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งจะต้องคำนึงถึงความเชื่อมโยงกับกฎหมายอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการบูรณาการในทุกมิติ เช่น กฎหมายฟอกเงิน กฎหมายที่เกี่ยวกับความร่วมมือกับต่างประเทศ กฎหมายด้านการปราบปรามองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสถาบันการเงิน และเห็นควรให้รองรับกับการดำเนินการยึดทรัพย์สินรูปแบบใหม่ ๆ ในยุคดิจิทัล เช่น คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) บิทคอยน์ (bitcoin) ฯลฯ ตลอดจนการชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) อีกด้วย

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า มาตรการการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดจำเป็นต้องพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบนโยบายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจรู้จักวิเคราะห์เครือข่ายยาเสพติดอย่างรู้เท่าทัน เนื่องจากเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา เช่นเดียวกับเครือข่ายยาเสพติดที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ เช่น การซื้อขายออนไลน์ การโอนเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งปีหน้าและ ปีต่อ ๆ ไปก็อาจมีเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ขึ้นมาอีก

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวในตอนท้ายว่า ขอเตือนไปยังผู้ที่มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดว่านอกจากบทลงโทษจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งมีโทษขั้นสูงสุดประหารชีวิตแล้ว ทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติดจะต้องถูกยึด และไม่เฉพาะทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติดโดยตรง แต่รวมไปถึงทรัพย์สินอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ หากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง @Wanvisa
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท. 55 ปี)
#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์
#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์
#T.Newsman007Online

#นุช​ อินเตอร์​นิวส์​//รายงาน​