“บิ๊กราญ” เป็นประธานพิธีเปิดการทดสอบความรู้พนักงานสอบสวนในสังกัด บชน. ผ่านระบบ VDO Conference

วานนี้ (15 ม.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บช.น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เป็นประธานพิธีเปิดการทดสอบความรู้พนักงานสอบสวนในสังกัด บชน. ผ่านระบบ VDO Conference ระหว่างวันที่ 15 ม.ค. 2565 ถึงวันที่ 16 ม.ค. 2565 โดยมี พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.น. ดูแลงานกฎหมายและคดี พ.ต.อ.ทินกร สมวันดี รองผบก.น.5 คณะทำงานผู้ดำเนินการจัดการทดสอบดังกล่าว โดยกำหนดการทดสอบ 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-16 ม.ค. นี้

โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบคำสั่งที่มีการปรับปรุงและเป็นการเตรียมตัวพนักงานสอบสวนให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น จึงต้องมีการทดสอบให้พนักงานสอบสวนมีความั่นใจและพัฒนาความรู้ความสามารถดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพนักงานสอบสวนอยู่ในระดับใด การทดสอบดังกล่าวไม่มีการไปกำหนดเกณฑ์ตายตัวให้พนักงานสอบสวนอยู่ในระดับใด หากผลการทดสอบทำคะแนะได้น้อยก็ต้องพัฒนาต่อ ส่วนที่ทำคะแนะได้มากก็ชื่นชม ทั้งนี้ยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าว ทาง บช.น. พัฒนาด้านงานสอบสวนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นแนวคิดของพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายให้มีการอบรมทบทวนความรู้ มาตรฐานของข้าราชการตำรวจทุกสายงาน พล.ต.ท.สำราญ จึงได้สั่งการให้ตนดำเนินการจัดการทดสอบความรู้ให้พนักงานสอบสวนดังกล่าวในวันที่ 15-16 ม.ค. แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตั้งแต่ 1.ผกก.สอบสวน และผกก.สน. 2.รองผกก. 3. สว. และ 4.รองสว. รวมประมาณ 1,600 นาย โดยจะมีการแจ้งถึงเนื้อหาวิชาที่จะสอบให้พนักงานสอบสวนได้ทำการทบทวน เนื่องจากการรับคดีแต่ละโรงพักอาจจะมีการรับคดีแต่ละแบบ ความผิดตามกฎหมายหรือตามพระราชบัญญัติคนละเรื่องกัน ก็จะมีความชำนาญแตกต่างกัน

“นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการในการออกข้อสอบจากทุกกองบังคับการในสังกัดตำรวจนครบาลมาเป็นข้อสอบกลางใส่ไว้ในคลังข้อสอบและเขียนระบบในการสอบผ่านกูเกิ้ลฟอร์ม (google form) เพื่อให้ข้าราชการตำรวจทำการทดสอบในที่ตั้งของตัวเองได้ ตามการปฏิบัติมาตรการการแก้ไขการแพร่ระบาดเชื้อโควิด เมื่อทำการทดสอบเสร็จแล้วสามารถตรวจสอบผลการสอบได้ภายใน 30 นาที จากนั้นสามารถดาวน์โหลดใบรับรองใบประกาศทางอิเล็คทรอนิกส์ได้ต่อไป” รองผบช.น. กล่าว

นอกจากนี้ พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กรุงเทพมหานครเขตเลือกตั้งที่ 9 เขตหลักสี่ ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคมนี้ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ออกแผนในการป้องกันอาชญากรรม รวมทั้งการอำนวยความสะดวกการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยใช้ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เป็นกำลังหลักในการดูแลพื้นที่เขตเลือกตั้งซึ่งมีหน่วยเลือกตั้ง 280 หน่วย อีกทั้งจะมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องก่อนถึงช่วงเลือกตั้ง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ และแนวโน้มการเกิดความรุนแรงแต่อย่างใด

ด้าน พลตำรวจตรีไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูมีเรื่องทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงกับอาสาสมัครมูนิธิเพชรเกษม สาขากรุงเทพ เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมาว่า หลังจากที่เมื่อวาน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้เป็นคนกลางเรียกประชุมประชุมเจรจาหารือกันกับตัวแทนของทั้งสองมูลนิธิ โดยกำชับให้นำตัวผู้กระทำผิดมามอบตัว หากไม่มาพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป เพราะรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว จะไม่รอให้มามอบตัวอย่างเดียว ฉะนั้นถ้ามามอบตัวก่อน ก็จะเป็นผลดีกว่าถูกออกหมายจับ

“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ 2 โรงพัก ในส่วนของ สน. ทุ่งสองห้อง จะเป็นคดีใช้อาวุธปืนและคดีทำร้ายร่างกาย มีผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 2 คน ส่วนของ สน.โคกคราม จะเป็นคดีใช้อาวุธปืน มีผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 3 คน อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ทุกโรงพักในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้มงวดตรวจค้นรถอาสาสมัครกู้ภัยทุกมูลนิธิ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการพกพาอาวุธที่อาจนำไปใช้ก่อเหตุรุนแรงได้” รอง ผบช.น. กล่าว

Cr.หนุ่มน้อย

#นุช​ อินเตอร์​นิวส์​//อินเตอร์​นิวส์​ออนไลน์​//รายงาน094-6247683