ภ.3 ชี้แจงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19 ของ ศฝร.ภ.3

ตามที่มีหนังสือเปิดผนึกลงนามจากกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนนายสิบตํารวจรุ่น 12 (นสต. 12) ตํารวจภูธรภาค 3 (ภ.3)

กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. ให้ผ่อนผันขยับเวลาการเรียนและการฝึกออกจากไปจาก กําหนดวันที่ทางศูนย์ฝึกอบรมตํารวจภูธรภาค 3 (ศฝร.ภ.3) เรียกเข้ามาเรียนและฝึก นั้น

29 พ.ค.64:พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.3 กล่าวว่า ตํารวจภูธรภาค 3 (ภ.3) ขอชี้แจงดังต่อไปนี้ เดิมที นสต.รุ่น 12 รุ่นนี้ได้เข้าเรียนและฝึกด้านระเบียบวินัยต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 ที่ผ่านมาระหว่างที่เรียนและฝึกอยู่นั้นวันที่ 15 เม.ย.64 นสต.รุ่น 11 ได้กลับเข้ามาเข้าเวรยามตามหน้าที่ ที่ ศฝร.ภ.3 แต่ปรากฏว่า 2 คนในกลุ่มของ นสต.รุ่น 11 ที่กลับมาเข้าเวรนั้นติดเชื้อโควิด-19 ต่อมา วันที่ 17 เม.ย. 64 ผู้บริหารของ ศฝร.ภ.3 ประชุมร่วมกันโดยปรึกษากับสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาและมีความเห็นร่วมกันตัดสินใจให้ปล่อย นสต.รุ่น 12 ออกไปจาก ศฝร.ภ.3 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดใน ศฝร.ภ.3
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 64 ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ลงวันที่ 16 พ.ค. 64 กําหนดให้โรงเรียนและสถาบัน การศึกษาทุกประเภทให้สามารถใช้อาคารสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอนการสอบการฝึกอบรมการทํากิจกรรม ใดๆได้ตามความเหมาะสมและความพร้อมตามคําแนะนําของทางราชการและมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการ กําหนด
เนื่องจากการเรียนการสอนและการฝกึของนสต.มีความจําเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกภาคปฏิบัติที่จําเป็น ต้องฝึกที่ ศฝร.เท่านั้น กอปร หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการแพร่ระบาดข้างต้นได้ประกาศแล้วทาง ศฝร.ภ.3 จึงมีแนวคิดจะนํา นสต.รุ่น 12 กลับเข้ามาเรียนและฝึกตามแผนการเรียนการสอน ศฝร.จึงได้มีหนังสือถึงคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ลงวันที่ 25 พ.ค. 64 แจ้งว่าจะนํา นสต.รุ่น 12 เข้ามาฝึกใน ศฝร. คณะกรรมการฯจึงได้ตั้งอนุคณะกรรมการฯเข้ามาที่ ศฝร. เพื่อตรวจสอบความพร้อมตลอดจนให้คําแนะนําต่างๆในการที่จะรับ นสต.รุ่น 12 จนถึงวันที่ 27 พ.ค. 64 คณะกรรมการฯได้เข้ามาตรวจพร้อมสั่งให้แก้ไขปรับปรุง เช่น โรงนอนให้ เว้นระยะเตียงให้ห่างมากขึ้น เตียง 2 ชั้น ให้นอนได้ชั้นเดียว ห้องอาบน้ําให้เติ่มคอลรีนในน้ําและให้ใช้ถังแยกน้ําไม่ให้ใช้น้ํารวมกันก่อนเข้าห้องน้ําให้เตรียมเจลล้างมือก่อน งดเว้นการเข้าแถวโรงเลี้ยงอาหารให้เข้าเป็นผลัดๆละ 1 กองร้อย แทนที่จะเข้าพร้อมๆกันทั้งหมด มีเจลล้างมือ ภาชนะที่ใชเ้ ป็นของส่วนตัวทั้งหมด ห้องเรียนจากปกติ 6 ห้อง เป็น 12 ห้องเรียน เพื่อเว้นระยะห่างในการนั่งเรียน ใช้การเรียนระบบออนไลน์ การฝึกภาคปฏิบัติจะฝึกท่าที่ไม่ได้สัมผัสถูก ตัวกัน ซึ่งทาง ศฝร. ได้ปรับปรุงแก้ไขจนเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว และได้ประสานกับเทศบาลฯให้ฉีดน้ํายาฆ่าเชื้อทุกๆจุด ในศฝร.ได้เตรียมแมสก์เจลไวต้ามจุดต่างๆและแจกให้นสต.แต่ละคนไว้แล้วมีการตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิทุกจุดได้ ประสานกับ รพ.ตร. เพื่อฉีดวัคซีนให้กับ นสต.ทั้งรุ่น 11 และ 12 ทุกคน โดยจะฉีดประมาณกลางเดือน มิ.ย. 64 ก่อนที่ นสต.รุ่น 12 จะเข้า ศฝร. ทาง ศฝร.ได้ทําการคัดกรองทางออนไลนโดยได้สํารวจจํานวน นสต.กลุ่มเสี่ยงต่างๆ เช่น กลุ่มที่เดินทางไปพื้นที่สีแดงเข้ม(กทม., นนทบุรี, สมุทรปราการและปทุมธานี), กลุ่มที่อยู่ใน จว.นม., กลุ่มที่มาจากจังหวัดอื่นๆ และกลุ่มที่มีอาการเข้าข่ายในการสอบสวนโรค ซึ่งขณะนี้ ศฝร.ได้ทราบข้อมูลหมดแล้ว และ ในวันพรุ่งนี้(30พ.ค.64)ตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น.ซึ่งเป็นวันเวลาที่นสต.รุ่น 12 จะต้องเข้ามารายงานตัวก็จะมีการคัดกรองตามข้างต้นอีกครั้งหนึ่งโดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขฯ
ตามที่ได้ชี้แจงมาข้างต้น ภ.3 และ ศฝร.ภ.3 ยืนยันและมั่นใจว่า การดําเนินการต่างๆข้างต้นนั้น ศฝร.ภ.3 พร้อมที่รับ นสต.รุ่น 12 เข้ามารับการเรียนการสอนและฝึกภาคปฏิบัติต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยอย่างแน่นอนและจะดําเนินมาตรการทุกอย่างอย่างระมัดระวังสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองของ นสต.ทุกๆท่าน @แมงปอ

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี)
#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์
#นุช​อินเตอร์​นิวส์​//อินเตอร์​นิวส์​ออนไลน์​//รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed